--- ONE --- - --- ONE --- นิยาย --- ONE --- : Dek-D.com - Writer

    --- ONE ---

    ฟิค D-Gray Man เรื่องแรกที่แต่งจบคะ คู่บี้ยู ...ใครไม่นิยมขอเตือนว่าอย่าจิ้มนะคะ ^^

    ผู้เข้าชมรวม

    446

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    446

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    4
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  12 ธ.ค. 49 / 23:18 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      --- ONE --- [Ravi & Kanda Yu]

      ตั้งแต่พบนายครั้งแรก…ฉันก็เฝ้าแต่คิดถึงนายตลอดเวลา…

      ตั้งแต่ตื่นนอนในตอนเช้า…จนเข้านอนในตอนกลางคืน…

      หลงใหลเส้นผมสีดำดั่งแพรไหมนั้น…

      หลงใหลนัยน์ตาสีห้วงทะเลลึกที่ส่อแววหงุดหงิดตลอดเวลา…

      อยากรู้ว่า…ตอนที่นายยิ้ม…จะสวยมากแค่ไหน…คันดะ ยู…

      หลังจากที่เสร็จจากภาระกิจที่โดนมอบหมายมาแล้ว…เอ็กโซซิสท์ทั้งสองคนกำลังเดินฝ่าหิมะไปสถานีรถไฟ…เพื่อกลับศาสนจักรแห่งความมืด…ความหนาวเย็นจากหิมะ ทำให้ร่างกายหนาวสั่น…จนคนที่เดินอยู่ข้างหลังสังเกตได้…

      “หนาวหรือเปล่า ยู ?” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้าด้วยความเป็นห่วง

      “ไม่ต้องมายุ่ง” คันดะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งตามแบบฉบับ…ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินให้เร็วขึ้น…แต่กลับเจอแรงฉุดที่แขนไว้ ก่อนผ้าพันคอสีส้มจะตวัดลงบนลำคอระหง…ราวี่ค่อยๆ จัดผ้าพันคอให้เรียบร้อย…แล้วส่งยิ้มให้อย่างเคย

      “นายก็รู้ว่าฉันชอบยุ่ง…โดยเฉพาะเรื่องของนาย…” นัยน์ตาสีเขียวมรกตจ้องมองอีกฝ่าย…แต่กลับโดนหลบสายตาก่อนที่คนร่างบางจะหันหลังแล้วเดินต่อ…

      “รีบๆ เดินไปสถานีกันได้แล้ว…เสียเวลา” พูดจบก็เดินออกไปทันที…เพื่อปกปิดอะไรบางอย่างที่ไม่พ้นสายตาของว่าที่บุคแมนได้แม้แต่นิดเดียว

      …ยู…หน้าแดง…

      รอยยิ้มผุดพรายบนใบหน้าหล่อคมก่อนจะรีบวิ่งตามไปกวนประสาทคนข้างหน้าอย่างเคย…

      ฉันสัญญา…ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่…จะอยู่เคียงข้าง…แล้วทำให้นายมีความสุข…

      ใต้ต้นไม้ใหญ่ภายในศาสนจักรแห่งความมืด…แสงแดดอ่อนๆ ของยามเช้าที่สดใส…สายลมที่พัดเอื่อยมาทำให้คันดะรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก…กระชับผ้าพันคอให้แน่นขึ้นก่อนยิ้มอย่างมีความสุข…ผ้าพันคอของราวี่…

      “มานั่งอยู่ตรงนี้เองเหรอ ยู ?” เจ้าคนกวนประสาทโผล่มาอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้…คันดะหันไปทำสายตาดุใส่เหมือนเคย

      “ตามมากวนประสาทแต่เช้าเลยนะ” เอ่ยอย่างหงุดหงิด แต่ก็ยังเรียกรอยยิ้มจากคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี

      “ท่าทางนายจะชอบผ้าพันคอสุดที่รักของฉันผืนนี้จังนะ” ชายหนุ่มไม่สนใจสิ่งที่คันดะพูดสักนิด…แถมยังยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ…”หรือว่า…นายแอบชอบฉัน…” พูดจบ ปลายมุเก็นก็จ่ออยู่ที่ลำคอเจ้าของเรือนผมสีเพลิงทันที…

      “ถ้านายยังไม่อยากตาย…ก็อย่าพูดอะไรบ้าๆ แบบนั้นอีก! ลดมุเก็นลงก่อนโยนผ้าพันคอผืนนั้นไปอย่างไม่ไยดี…คืนไปสู่เจ้าของที่แท้จริง…แล้วหันหลังจะเดินหนีไป

      “ถ้าตายด้วยมือนาย…ฉันก็ยอมนะ…” พูดให้อีกคนได้ยิน…ก่อนจะเดินไปสวมกอดจากด้านหลัง…ซบหน้าลงกับไหล่บางไม่สนใจกับอาการดิ้นของคนตรงหน้าแม้แต่น้อย…

      “ทำบ้าอะไรของนาย…ปล่อยนะเฟ้ย !!! ร้องเสียงดังโวยวายอย่างขัดใจ…พร้อมกับพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดนั้น…

      “…ฉันรักนายนะ…ยู” คำบอกรักจากราวี่ ทำเอาคันดะหยุดนิ่งไปในทันที “จริงๆ นะ ยู” จับตัวร่างบางให้หันมาสบตา…”รู้ตัวหรือเปล่า…ว่าเวลานายหน้าแดงเนี่ย…น่ารักมากๆ เลยนะ…” คันดะแทบอยากจะต่อยคนตรงหน้าให้คว่ำไปซะรู้แล้วรู้รอด…ก่อนจะสบถเสียงดัง

      “ไอ้บ้า!

      อย่างนี้ถือว่านายรับรักฉันแล้วนะ” คิดเข้าข้างตัวเองเสร็จสรรพก็เกิดความเงียบขึ้นมาในทันที…

      “แล้วแต่นายจะคิด…” เจ้าของเรือนผมสีรัตติกาลเอ่ยทำลายความเงียบ ก่อนจะเดินเข้าไปในปราสาทอย่างรวดเร็ว…ปล่อยให้ราวี่ยืนยิ้มอย่างมีความสุข…

      ถ้าเป็นอย่างนี้…ฉันก็ขอคิดเข้าข้างตัวเองได้หรือเปล่า…ว่านายก็คิดเหมือนกับฉัน…

      ………………………………………รัก……………………………………………

      รู้สึกราวี่กับคันดะจะสนิทกันมากกว่าแต่ก่อนอีกนะครับ” อเลนพูดขึ้นท่ามกลางโรงอาหารที่อัดแน่นไปด้วยเอ็กโซซิสท์…ที่ผ่านมาก็รู้ว่าทั้งคู่สนิทกัน (?) แต่ช่วงหลัง…จะสนิทกันมากเป็นพิเศษ…จนผิดสังเกต…

      “แหมมมมมมมมม…ก็คนรักกันนี่นา…จริงมั้ย ยู ?” เจ้าของเรือนผมสีเพลิงเอ่ยตอบอย่างคนอารมณ์ดี

      “หา??? คนรักเหรอครับ ?” อเลน งง เป็นไก่ตาแตก…ก่อนจะหันไปถามอีกคนที่ฉายแววหงุดหงิดอยู่เป็นประจำ… “จริงเหรอครับ คันดะ” คำตอบที่ได้รับกลับมาคงมีแต่ความเงียบ… ก่อนที่ร่างสูงโปร่งเจ้าของผมสีรัตติกาลจะลุกออกจากโต๊ะอาหารไปเสียดื้อๆ…สงสัยจะเรื่องจริง…ถ้าไม่จริง…ป่านนี้คงโดนมุเก็นจ่อคอไปนานแล้ว…

      “อ้าว ยู…ขอตัวก่อนละนะ อเลนคุง” พูดจบชายหนุ่มผมสีเพลิงก็ลุกตามคนรัก (?) ไปอีกคน…อเลนทำได้เพียงถอนหายใจน้อยๆ ก่อนก้มลงตั้งหน้าตั้งตาจัดการอาหารตรงหน้าต่อ…

      …ราวี่ที่ดูร่าเริงสดใสมากกว่าแต่ก่อน…คันดะที่ดูหงิดหงุดน้อยลง…คงไม่มีสิ่งใดที่ทำให้คนทั้งคู่ดูเปลี่ยนแปลง…

      …………………..นอกจากความรัก…………………….

      …ท้องฟ้าพร่างพรายไปด้วยหมู่ดาวมากมายนับไม่ถ้วนที่อยู่เป็นเพื่อนกับพระจันทร์ผู้โดดเดี่ยว…พระจันทร์ที่กำลังทอแสงเต็มดวง…สายลมที่พัดผ่านมาทำให้ร่างบางห่อไหล่เล็กน้อย…นานทีจะมีโอกาสได้อยู่พักผ่อนจากการทำภาระกิจสักครั้ง…คันดะเงยหน้ามองพระจันทร์บนฟากฟ้านั้น…พระจันทร์ที่เปรียบเหมือนกับตัวเอง…ที่ต้องอยู่เพียงลำพัง…

      บัดนี้…ได้มีดวงดาวเป็นเพื่อน…และทำให้พระจันทร์ดูงดงาม…

      ลมพัดมาอีกครั้ง…แต่คราวนี้พัดเอาผ้าพันคอของราวี่ที่ถืออยู่…ผ้าพันคอที่ราวี่เอามาวางไว้ที่ห้องของคันดะตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้…ปลิวลงไปยังเบื้องล่าง…

      อเลนที่เพิ่งกลับมาจากการทำภาระกิจ กำลังจะเดินเข้าตัวตึกของศาสนจักรอย่างเหนื่อยอ่อน…รู้สึกถึงลมวูบนึงที่พัดมาพร้อมกับผ้าพันคอที่ตกลงมาบนหัวของเขาพอดิบพอดี…เด็กหนุ่มค่อยๆ หยิบลงมาจากหัว…ผ้าพันคอสีส้ม…ผืนรักของราวี่เลยนี่นา…อเลนมัวแต่มองผ้าพันคอนั้นอย่างสงสัย จนไม่รู้ว่ามีอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า…

      “เอาคืนมาได้แล้ว เจ้าถั่วงอก! ” เสียงหวานแต่กลับดุดันดังขึ้น…ทำให้อเลนต้องเงยหน้ามองอย่างแปลกใจ…คันดะที่ยืนหอบเหนื่อยเพราะวิ่งลงมาจากข้างบนเพื่อตามเก็บผ้าพันคอผืนนี้…ท่าทาง…คันดะคง…

      “เอ่อ…………” ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็เจอคนตรงหน้าคว้าผ้าพันคอไปจากมือซะก่อน…แต่ภาพที่เห็นทำให้อเลนอึ้งไปอีกรอบ…คนตรงหน้ากำลังยิ้ม…ยิ้มให้กับผ้าพันคอผืนนั้น…

      …เหมือนกับ…ดีใจที่ได้สิ่งสำคัญกลับมา…

      “คันดะ……….รักราวี่ใช่มั้ยครับ ?” ถามแบบตรงๆ แต่น้ำเสียงยังแอบแฝงไปด้วยความเศร้าจนคนฟังจับได้…คันดะมองหน้าอเลนที่เริ่มก้มลงต่ำ…

      …ผมก็รักคันดะเหมือนกัน…คุณไม่รู้จริงๆ น่ะเหรอ…ว่าผม…รักคุณ…

      คันดะเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะวางมือลงบนผมสีขาวนุ่มนั้น…คล้ายปลอบใจ…

      “ตัดใจเถอะนะ………..” รู้มาตลอด…ในที่สุดก็ถึงวันที่ต้องพูดแบบนี้…พูดจบก็หันหลังเดินลับหายไปในตึกของศาสนจักรทันที…

      …….เพราะคุณอ่อนโยนอย่างนี้ไง……….

      …………….คุณน่าจะรู้……….ว่า…….ผมคงหยุดรักคุณไม่ได้อยู่แล้ว……………

      เงยหน้าขึ้นมองไปบนระเบียง…รู้นานแล้วว่ามีคนมองพวกเขาที่อยู่ข้างล่าง…นัยน์ตาสีเขียวมรกตน้ำงามกำลังจับจ้องอยู่ด้วยความโกรธเคือง…แต่อเลนก็ยังจ้องตอบก่อนส่งยิ้มให้อย่างเคย…แล้วก็เดินหายไปในตึกของศาสนจักร…

      ………….ไม่เคย…………….ไม่เคยได้เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนแบบนั้นของยู………

      …เฝ้ามองทุกค่ำคืนที่ร่างบางออกมารับลมข้างนอกก่อนนอน…

      ………ฝากบอกรักไปกับสายลมทุกค่ำคืน………….แต่ไม่เคยได้รับรอยยิ้มกลับมา…………

      …………หรือฉันเข้าข้างตัวเองเกินไป………….ยู…………………………

      …………………..ที่ผ่านมา…………………..นายคิดยังไง………..

      ………………………………เคยรักฉันบ้างหรือเปล่า…………………………………

      ปัง เสียงปิดประตูดังตามแบบฉบับของเจ้าของห้อง…แต่เมื่อหันหลังกลับไป…ก็ดันเจอเจ้าคนกวนประสาทอยู่ตรงหน้า…แต่…ความรู้สึกกลับแตกต่างออกไป…

      “เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่?” คันดะถาม ก่อนจะเดินไปวางผ้าพันคอไว้บนเตียง…แต่ก็เจอแรงฉุดจากคนร่างสูง…ทำให้คันดะตกอยู่ในอ้อมกอดของราวี่อย่างง่ายดาย…

      “ตั้งแต่คบกันมา…” ราวี่เอ่ยถามเสียงสั่น “เคยรักฉันบ้างหรือเปล่า…” ความเงียบเข้าคลุมทันที…ก่อนประโยคถัดมาที่เอ่ยออกจากปากร่างบางจะทำลายมันลง…

      “แล้วฉันไปตกลงคบกับนายตอนไหน…?”

      ………..ที่ผ่านมา…ฉันคิดไปเองใช่มั้ย…?

      ……………….นายไม่เคยรักฉัน…………………

      “นายไม่เคยรักฉันเลยสินะ…” ปล่อยร่างคนในอ้อมกอด แล้วก้มลงเก็บผ้าพันคอสุดรักผืนนั้นขึ้น…ก่อนจะหันหลังเพื่อปิดบังความเจ็บปวด…

      …………..เพราะอย่างนี้ไง…ฉันถึงอยากฟังจากปากนาย…ดีกว่าจะคิดเข้าข้างตัวเอง…

      “มันคงไม่จำเป็นสำหรับนายแล้วสินะ…” คันดะได้แต่นิ่งเงียบ… ปัง เสียงประตูห้องปิดลง…แต่สายตายังจับจ้องอยู่แบบนั้น…

      ………งี่เง่า………ทั้งๆ ที่ฉันก็……..รักนาย…………

      แต่ไม่กล้าพอที่จะพูด……เพราะ…….ฉันมันอ่อนแอ…………

      ยามใดที่พระจันทร์ขาดหมู่ดาวอยู่เป็นเพื่อน…ก็คงต้องกลับมาอยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกครั้ง…

      น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย…สุดท้าย…ก็ต้องกลับมาอยู่คนเดียวเพียงลำพัง…

      ภายในโรงอาหารของศาสนจักร…เด็กหนุ่มผมขาวจ้องมองเพื่อนร่วมงานอีกคนที่เคยร่าเริง…แต่ตอนนี้กลับหม่นหมองอย่างประหลาด…ส่วนอีกคนก็ยังไม่เห็นหน้าตั้งแต่เช้า…แปลก…

      “ราวี่ครับ…คันดะ…”

      “ไม่รู้! ตอบกลับทั้งๆ ที่ยังถามไม่จบด้วยซ้ำ…

      ไม่อยากรับรู้…เรื่องที่เกี่ยวกับคนคนนั้นอีกแล้ว…

      …เพราะทุกครั้งที่อยู่ใกล้ๆ…ก็เป็นเขาทุกครั้งที่ต้องเจ็บปวด…

      ………..ไม่อยากจะต้องเจ็บปวดอีกแล้ว………………

      ชายหนุ่มผมสีเพลิงลุกออกจากโต๊ะอาหารทันที…ทำเอาเด็กหนุ่มแปลกใจ…หรือจะเป็นเพราะเรื่องเมื่อคืนนะ…

      อเลนหยุดอยู่หน้าห้องของคันดะ…ก่อนจะเคาะประตูเรียกคนในห้อง…

      “คันดะครับ…คุณโคมุอิให้มาตามไปรับภาระกิจครับ…” เด็กหนุ่มตะโกนบอก พร้อมกับเคาะประตูอีกครั้ง…เพราะผิดสังเกต… ”คันดะครับ” เรียกอยู่นานแต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับเหมือนเดิม…หรือว่าจะออกไปข้างนอก…แต่…ก็ยังไม่เห็นตั้งแต่เช้าเลยนี่นา…จับกลอนประตูแล้วเปิดออก…ไม่ได้ล็อค… “ขออนุญาตนะครับ” เปิดประตูเข้าไป…ว่างเปล่า…ไร้เงาของคนที่ตามหา…แต่กลับเหลือบไปเห็นที่ระเบียงห้อง…ภาพตรงหน้าถึงกับทำให้อเลนตกใจ…ภาพที่คันดะ ยู…ผู้ที่คิดว่าเข้มแข็งคนนั้น…นอนกองอยู่ที่พื้นระเบียงนั้น… “คันดะ !!!

      ……….ยามใดพระจันทร์ไร้แสง…โลกนี้คงตกสู่ความมืดมิดอีกครา…

      “ว่าไงนะ อเลน…คันดะน่ะเหรอไม่สบาย???” เสียงของโคมุอิดังลอดออกมาจากประตูห้อง…ทำให้ใครบางคนที่เดินผ่านมาโดยบังเอิญหยุดฟัง…

      “จริงๆ นะครับ…ไข้ขึ้นสูงมากเลยด้วย…” อเลนตอบอย่างร้อนรน…แต่คนที่อยู่นอกห้องนั้นร้อนรนยิ่งกว่า…รีบวิ่งไปที่ห้องของคนที่ห่วงหามากที่สุด…

      …..สุดท้ายเขาก็ต้องเป็นฝ่ายที่เจ็บปวด…..

      เปิดประตูห้องเข้าไปทันที…ก่อนจะเห็นร่างบางที่คิดถึงนอนหลับใหลอยู่บนเตียง…

      “ยู…” เดินเข้าไปข้างเตียง…นัยน์ตาสีเขียวมรกตมองด้วยความเป็นห่วง…

      ……ทั้งที่เคยสัญญากับตัวเอง…ว่าจะดูแลนาย……..

      มือใหญ่เอื้อมไปลูบเรือนผมสีรัตติกาลนั้น…ก่อนกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู… “ฉันขอโทษ…”

      ขอโทษที่ดูแลนายไม่ดี…

      ขอโทษที่ผิดสัญญา……………

      ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่…จะขออยู่เคียงข้างนาย…จะทำให้นายมีความสุข…

      ………ถึงจะต้องเจ็บปวดก็ยอม…………..

      “ราวี่ครับ…ดูแลคันดะดีดีนะครับ…” เสียงใสดังขึ้น…เห็นทุกอย่าง…นัยน์ตาสีขี้เถ้าจ้องมองมาอย่างมุ่งมุ่น…ก่อนจะส่งยิ้มให้อย่างเคย… “ผมจะออกไปทำภาระกิจแทนเอง…ไม่ต้องห่วงนะครับ…”

      “นายรักยูใช่มั้ย?” ราวี่เอ่ยถาม…น้ำเสียงจริงจังทำให้เรียกรอยยิ้มได้จากอีกฝ่าย

      “ครับ” ถามตรงๆ…เขาก็กล้าตอบตรงๆ เช่นกัน…

      “ฉันจะไปเอง…”

      ………ฉันยังอยู่เคียงข้างนายเสมอ……..จะคอยดูแลนายอยู่ห่างๆ…

      ……และจะคอยอธิษฐาน…….ขอให้นายมีความสุข………………

      เปลือกตาบางเปิดขึ้นเมื่อรู้สึกถึงแสงแดดที่แยงตายามเช้า…ภาพตรงหน้าช่างพร่ามัว…

      “ราวี่…”

      “ผม…อเลนครับ…” คันดะกระพริบตาก่อนจะมองภาพตรงหน้าอีกครั้ง…ไม่ใช่ราวี่…แต่เป็นอเลน…

      ….สุดท้าย…นายก็ตีจากฉันไปเหมือนคนอื่นๆ…

      ทั้งๆ ที่เคยคิด…ว่านายจะเป็นคนเดียวที่อยู่ข้างๆ ฉัน…

      ……จะกลับมาหาฉัน……

      “ราวี่ไม่เคยทิ้งคันดะไปไหนหรอกครับ…” อเลนพูดแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน

      ฉันจะรับภาระกิจของยูแทนทั้งหมด…จนกว่ายูจะหาย… เสียงของราวี่ยังคงดังสะท้อนก้องอยู่ในหูของเด็กหนุ่มเป็นอย่างดี…

      ……..ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไป…ก็เพื่อคนที่รัก……

      ท้องฟ้ายามค่ำคืนมาเยือนอีกครั้ง…คันดะยังคงยืนมองท้องฟ้าเบื้องบนอย่างเหม่อลอย…ท้องฟ้าที่ไม่มีแม้แต่ดวงดาว…กระชับอ้อมกอดตัวเองแน่นขึ้นเพราะสายลมที่พัดพาเอาความหนาวเย็นมาด้วย…พร้อมกับเสียงใครบางคน…คนที่คิดถึง…

      “หายดีแล้วเหรอ ยู ?” ชายหนุ่มผมสีเพลิงตะโกนถาม…ทำให้เจ้าของเรือนผมสีรัตติกาลมองลงไป…รอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นมานาน…แต่สภาพร่างกายของคนข้างล่างดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด… “มายืนตากน้ำค้างอย่างนี้…เดี๋ยวก็เป็นไข้อีกหรอก…” เตือนคนร่างบางด้วยความเป็นห่วง…ก่อนจะเดินหายไป…ทิ้งไว้เพียงรอยยิ้มที่คุ้นเคย…

      “ดีใจด้วยนะที่นายหายดีแล้ว…” โคมุอิพูดก่อนจะยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี…

      “มีอะไรก็รีบๆ พูดมา” คันดะกลับมาหงุดหงิดอย่างเคย…สายตาหันไปมองเจ้าคนที่เคยกวนประสาทเขาเช้าเย็น…ที่ตอนนี้เอาแต่นั่งเงียบ…

      “โอเคๆ…ตามหาอินโนเซนท์ทีได้รับข่าวสารมาจากหน่วยข่าว…ที่นครปารีส…” โคมุอิพูดพลางขยับแว่นให้เข้าที่… “แต่ที่นั่น…ตอนนี้คงเต็มไปด้วยอาคุมะ…ระวังตัวกันด้วยละ” พูดจบด็ยื่นเอกสารเพิ่มเติมให้ทั้งสามคน…คันดะ…ราวี่…และ อเลน… “เดินทางได้…”

      บนขบวนรถไฟมีแต่ความเงียบ…ทั้งที่แต่ก่อนมักจะมีเสียงดังโวกเวกจนน่ารำคาญเวลาที่ทั้งสามมาทำภาระกิจด้วยกัน…สายตาของคันดะเอาแต่ทอดมองข้างนอกอย่างเหม่อลอย…รู้ดีว่ามีอีกคนที่ยังคงจับจ้องตนเองอยู๋ จึงไม่กล้าจะหันไปมอง…

      “เอ่อ…” ในที่สุดอเลนก็เป็นคนทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนั่นเอง… “ คิดว่าพวกเรา…จะเจอโนอาห์มั้ยครับ…?” สองคนที่เหลือหันไปมองเด็กหนุ่ม…ก่อนราวี่จะยิ้ม…ที่ยังไงก็รู้ว่าฝืนทำมากมายแค่ไหน…

      “กลัวตายหรือไง เจ้าถั่วงอก ! นิสัยปากร้ายของคันดะกำเริบขึ้นมาทันที…แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะจากราวี่ได้เป็นอย่างดี…

      “ฉันไม่เห็นจะมีลางสังหรณ์แบบนั้นเลยนะ…” พูดก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ…

      แต่มีสังหรณ์ว่า…จะเสียคันดะ ยู …ไป……..

      …..กลัว…ว่าจะไม่มีวันได้กลับมาเจอกันอีก…….

      “นายก็รู้ว่าลางสังหรณ์ฉันแม่น…วางใจเถอะ…”

      คันดะได้แต่ปรายตามองว่าที่บุ๊คแมน ก่อนจะสบถอย่างเคย… “ไร้สาระ”

      ในที่สุดทั้ง 3 คนก็เดินทางมาถึงนครปารีสอย่างรวดเร็ว…แต่ยังไม่ทันจะพ้นสถานีรถไฟ…ก็ต้องตกใจกับภาพตรงหน้าที่เห็น…เหล่าอาคุมะระดับ 2 มากันเป็นกองทัพใหญ่…

      “ไม่เจอโนอาห์ แต่เจอฝูงอาคุมะแทนละนะ อเลนคุง” พูดพลางหยิบศาสตรากำราบอาคุมะคู่ใจขึ้นมา ก่อนจะพุ่งเข้าใส่เหล่าอาคุมะไม่ยั้ง…ตามด้วยคันดะที่คว้ามุเก็นเข้าใส่อาคุมะเช่นกัน…

      “ระวังตัวกันด้วยนะครับ…” ตะโกนบอกทุกคนก่อนจะโจมตีอาคุมะที่อยู่ข้างหลัง…

      สงครามระหว่างเอ็กโซซิสท์และอาคุมะยังดำเนินต่อไป…

      แต่ในสงครามย่อมมีการสูญเสีย…

      อาคุมะจำนวนมากถูกทำลายไป…แต่กำลังของทั้งสามคนก็ย่อมอ่อนแรงเช่นกัน…คมดาบพุ่งใส่อาคุมะตรงหน้า…ตัวสุดท้าย…ก่อนมุเก็นจะปักลงพื้นด้วยความเหนื่อย…ถึงจะฝึกฝนร่างกายเป็นประจำ…แต่การต่อสู้ติดต่อกันหลายชั่วโมงก็ทำให้อ่อนล้าได้เหมือนกัน…

      “ยู!!! หันไปตามเสียงเรียกก็พบกับอาคุมะอีกตัวที่กำลังมุ่งมาระยะประชิด…

      ตูม!’ ค้อนยักษ์ทุบลงมาอย่างแรงพร้อมกับซากอาคุมะ…

      …….ช่วยได้ทันพอดีเลยสินะ……….

      ชายหนุ่มผมสีแดงเพลิงล้มลงกองกับพื้น…เหนื่อย…และอ่อนแรงเต็มที…

      “ราวี่ !!!~ คันดะรีบวิ่งมาหาชายหนุ่มทันที…แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเลือด… “บาดเจ็บเหรอ ? …ตอนไหนกัน…….” ก็เมื่อกี้…ไม่มีท่าทีว่าราวี่จะโดนอาคุมะทำร้ายเลยด้วยซ้ำ…

      “…ก็ตั้งแต่…ไปช่วยอเลนนั่นแหละ…”

      …ถึงเขาจะเป็นอะไรไป…ก็ไม่เป็นไร…

      ……อย่างน้อย…ก็ยังมีอเลนคอยดูแลยูได้…

      “รีบไปดูอเลนดีกว่านะ…”

      “นายมันบ้าไปแล้วหรือไง…! ร่างบางตะโกนเสียงดัง… “นายมันบ้า…” แต่ค่อยๆ แผ่วลง…พร้อมกับเสียงสะอื้น…

      “ถึงฉันจะบ้าในสายตานาย…” รอยยิ้มอบอุ่นผุดพรายบนใบหน้าหล่อ…แต่กลับดูซีดเซียวในเวลานี้…เปลือกตาบางค่อยๆ ปิดลง…อ่อนล้าจนทนไม่ไหว… “แต่ฉันก็รักนาย…ไม่เคยเปลี่ยน…”

      ไม่มีวันไหน…ที่ฉันจะหยุดรักนายได้…

      …….นอกจากวันที่ฉันหมดลมหายใจ……

      “ราวี่……..ราวี่!!!~ เขย่าร่างของคนที่เคยกวนประสาท…แต่ก็เป็นเจ้าของอ้อมกอดที่อบอุ่น…คนที่บอกว่ารัก…น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว…ทำไม…ช่างรู้สึกว่าตัวเขา…กับราวี่เริ่มจะห่างไกลกันทุกที…

      Someday, I lay my love on you…

      สักวันหนึ่งฉันจะมอบความรักทั้งหมดให้นาย…

      Baby I don’t wanna lose it now…

      แต่…ฉันในตอนนี้ไม่ต้องการจะเสียนายไป…

      Just ---One---

      …แค่นายเพียงคนเดียวเท่านั้น…

      “อเลน…ช่วยราวี่ด้วย…” เสียงที่เอ่ยเรียกชื่อเด็กหนุ่มเป็นครั้งแรกกลับสั่นเครือ…เสียงที่ตะโกนขอความช่วยเหลือเป็นครั้งแรกในชีวิต…อเลนรีบวิ่งเข้ามาทั้งที่ตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่แพ้กัน…แต่ก็ยังเข้าไปช่วยพยุงราวี่ขึ้นมา…

      “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ…คันดะ…” ส่งรอยยิ้มให้อย่างเคย “ราวี่ต้องปลอดภัยครับ…”

      …ราวี่…หิมะตกแล้วนะ…

      …….ตื่นขึ้นมาสิ………แล้วฉันจะยอมเล่นหิมะกับนาย…

      มือบางกุมมืออีกคนที่นอนอยู่บนเตียง…ผ่านไปหลายวันแล้ว…แต่ราวี่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้น…เนื่องจากเสียเลือดมาก…และร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการทำภาระกิจมามาก…

      ……..ราวี่………..

      …….ท่ามกลางผู้คนมากมายนั้น…ฉันรู้ว่านายกำลังมองหาฉันอยู่……..

      ………แต่ในตอนนี้…ฉันก็มาอยู่ตรงหน้านายแล้ว….อยู่ตรงนี้…..

      “ถ้านายฟื้นขึ้นมา………” คันดะเอ่ยเสียงสั่น “ฉันจะบอกสิ่งที่ฉันอยากบอกกับนายมากที่สุด…” โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ ใบหน้าคมที่กำลังหลับใหล…

      ….ถ้าหากโลกนี้มีปาฏิหาริย์………..

      …….ถ้าหากโลกนี้เหมือนดั่งนิทาน…….

      ……ถึงจะเป็นความคิดที่งี่เง่า……แต่ในเวลานี้……

      ……ฉันอยากให้มีปาฏิหาริย์…….เหมือนดั่งในนิทาน…….

      ก้มลงประกบริมฝีปากชายหนุ่มที่หลับใหลอย่างแผ่วเบา…ก่อนจะถอนริมฝีปากออกช้าๆ…แต่คันดะก็เจอแรงฉุดที่แขนทำให้ล้มลงไปบนเตียงด้วยอีกคน…

      “แอบลักหลับฉันเหรอ ยู?” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ ที่ข้างหู ทำให้เสียงหัวใจของร่างบางเต้นแรง…

      “…นะ…..นาย………” หน้าแดงเรื่อขึ้นมาทันที…แต่…คนที่นอนป่วย…เสียเลือดมาก…แถมสภาพร่างกายอ่อนล้าขนาดนั้น…ทำไมถึงมีแรงได้ขนาดนี้…! “นายหลอกฉันเหรอ ?” คันดะเปลี่ยนมาตวาดใส่ทันที แต่กลับเรียกรอยยิ้มจากคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี

      “เขาเรียกว่า ลองใจ ต่างหากละ” ราวี่ตอบ ก่อนจะเจอแรงผลักของคันดะเต็มแรง…ทำให้ร่างสูงไปกองอยู่ที่ปลายเตียง

      “…นายเห็นฉันเป็นตัวตลกหรือไง…เห็นฉันเป็นห่วงนายเป็นบ้าเป็นหลัง…แล้วรู้สึกสนุกมากใช่มั้ย…เห็นความรักของฉันเป็นเรื่องล้อเล่นงั้นเหรอ !!!? ประโยคหลังแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน…น้ำใสๆ เอ่อคลอเต็มนัยน์ตาสีห้วงทะเลลึกนั้น…

      “…ฉันขอโทษ..ยู…” ราวี่เอื้อมมือไปปาดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน…ก่อนจะคว้าเข้ามากอดปลอบ “ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นตัวตลก…ไม่เคยเห็นความรักของนายเป็นเรื่องล้อเล่นเลยนะ…ฉันรักนาย………….” กระซิบข้างหูแผ่วเบา…ลูบไล้เรือนผมสีรัตติกาลอย่างหลงใหล…

      ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกนี้…ฉันก็คิดถึงแต่นาย…

      I pray for this love to be true… เฝ้าภาวนาขอให้ความรักครั้งนี้สมหวัง…

      แขนเรียวยกขึ้นกอดตอบร่างสูง ก่อนจะแนบหน้ากับหน้าอกกว้าง…

      “ฉัน……….ก็…รักนาย…ราวี่” เสียงกระซิบที่แผ่วเบายิ่งกว่าครั้งไหนๆ…แต่กลับทำให้อีกคนรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที…

      ตอนนี้…ฉันอยู่ตรงหน้านายแล้วนะ…

      ราวี่ก้มลงประกบริมฝีปากคนร่างบาง…หลงใหลในรสจูบที่ได้รับ…ต่างคนต่างต้องการ…ก่อนทั้งสองคนจะรวมเป็นหนึ่งเดียว…

      สุดท้ายนายก็กลับมาหาฉัน…เหมือนทุกครั้ง…

      …อยากให้นายได้รับรู้ไว้ว่า…ทั้งร่างกายและหัวใจนี้…จะมอบให้นายเพียงคนเดียว…

      ………นายคนเดียวเท่านั้น…ราวี่………

      ราวี่กระชับคนในอ้อมกอดมากขึ้น…ในที่สุด…เขาก็ได้คนตรงหน้ามาอยู่ในอ้อมกอดจริงๆ…ไม่ใช่ในความฝัน…

      “เจ็บมากมั้ย ยู…ขอโทษนะ…” ลูบผมคนรักอย่างเอาใจ…ภายใต้ผ้าห่มผืนนี้…อบอุ่นกว่าครั้งไหน…คันดะได้แต่ส่ายหน้าบอกให้อีกฝ่ายรับรู้…ก่อนจะซบกันอกกว้าง…

      “ราวี่……..บอกฉันอีกได้หรือเปล่า?” เสียงหวานเอ่ยถาม ร่างสูงได้แต่ยิ้ม…

      “…..ฉันรักนาย……..รักที่สุดเลย……….ยู…”

      ฉันจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ…จะไม่มีใครนอกจากนายคนเดียว…ยู…

      “เมอร์รี่คริสมาสต์ครับ” อเลนเอ่ยเสียงทักทายอย่างร่าเริง…ถึงจะเห็นราวี่และคันดะเดินเคียงข้างกัน…ถึงจะเจ็บปวด…แต่ก็มีความสุข…

      “เมอร์รี่คริสมาสต์อเลนคุง…เดี๋ยวออกไปเที่ยวกันดีมั้ย?” ราวี่ยิ้มอารมณ์ดี

      “ไม่ดีกว่าครับ…ผมไม่อยากจะไปเป็นก้างขวางคอใคร” เด็กหนุ่มพูดแล้วยิ้มตอบ…

      “โอเคๆ…งั้น…ฉันพาไปยูไปเที่ยวละนะ…” พูดจบก็เดินจูงมือคันดะไปทันที…ทิ้งไว้เพียงรอยยิ้มอ่อนโยนด้านหลัง

      …มีความสุขมากๆ นะครับ…คันดะ…ผมจะอยู่เป็นกำลังใจให้คุณเสมอ…

      หิมะตกลงมาเรื่อยๆ ทำให้อากาศเย็นลงทุกที…เมื่อลมหนาวพัดมาก็ทำเอาคันดะห่อตัวด้วยความหนาว…

      “หนาวหรือเปล่า ยู ?” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่เดินอยู่ข้างๆ ด้วยความเป็นห่วง

      “ไม่ต้องมายุ่ง” คันดะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งตามแบบฉบับ…ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินให้เร็วขึ้น…แต่กลับเจอแรงฉุดที่แขนไว้ ก่อนผ้าพันคอสีส้มจะตวัดลงบนลำคอระหง…ราวี่ค่อยๆ จัดผ้าพันคอให้เรียบร้อย…แล้วส่งยิ้มให้อย่างเคย

      “นายก็รู้ว่าฉันชอบยุ่ง…โดยเฉพาะเรื่องของนาย…” นัยน์ตาสีเขียวมรกตจ้องมองอีกฝ่าย…แต่คันดะกลับหลุบตาลงต่ำด้วยความเขินอาย…

      “…ขอบคุณ…” หน้าขึ้นสีเรื่ออย่างเห็นได้ชัด จนชายหนุ่มผมสีแดงเพลิงอมยิ้มด้วยความเอ็นดู…ก่อนจะขโมยหอมแก้มคนตรงหน้า… “เจ้าบ้า…ทำอะไรของ……..” คำพูดถูกกลืนหายไปเพราะถูกจูบอย่างไม่ได้ตั้งตัว…จูบที่อ่อนโยน…ก่อนจะถอนจูบออก…

      “รักนายนะ…” กระซิบเอ่ยถ้อยคำหวาน…ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นที่สุด…

      …ฉันจะทำให้นายมีความสุข…และจะไม่ทำให้นายต้องเสียน้ำตา…

      สองมือกุมกระชับกันแน่นขึ้น…ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายนั้น…

      ---…ตราบใดที่มีชีวิตอยู่…จะขออยู่เคียงข้างกันตลอดไป…---

      --- THE END ---

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×