--- ONE ---
ฟิค D-Gray Man เรื่องแรกที่แต่งจบคะ คู่บี้ยู ...ใครไม่นิยมขอเตือนว่าอย่าจิ้มนะคะ ^^
ผู้เข้าชมรวม
446
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
--- ONE --- [Ravi & Kanda Yu]
ตั้งแต่พบนายครั้งแรก ฉันก็เฝ้าแต่คิดถึงนายตลอดเวลา
ตั้งแต่ตื่นนอนในตอนเช้า จนเข้านอนในตอนกลางคืน
หลงใหลเส้นผมสีดำดั่งแพรไหมนั้น
หลงใหลนัยน์ตาสีห้วงทะเลลึกที่ส่อแววหงุดหงิดตลอดเวลา
อยากรู้ว่า ตอนที่นายยิ้ม จะสวยมากแค่ไหน คันดะ ยู
หลังจากที่เสร็จจากภาระกิจที่โดนมอบหมายมาแล้ว เอ็กโซซิสท์ทั้งสองคนกำลังเดินฝ่าหิมะไปสถานีรถไฟ เพื่อกลับศาสนจักรแห่งความมืด ความหนาวเย็นจากหิมะ ทำให้ร่างกายหนาวสั่น จนคนที่เดินอยู่ข้างหลังสังเกตได้
“หนาวหรือเปล่า ยู ?” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้าด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้องมายุ่ง” คันดะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งตามแบบฉบับ ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินให้เร็วขึ้น แต่กลับเจอแรงฉุดที่แขนไว้ ก่อนผ้าพันคอสีส้มจะตวัดลงบนลำคอระหง ราวี่ค่อยๆ จัดผ้าพันคอให้เรียบร้อย แล้วส่งยิ้มให้อย่างเคย
“นายก็รู้ว่าฉันชอบยุ่ง โดยเฉพาะเรื่องของนาย ” นัยน์ตาสีเขียวมรกตจ้องมองอีกฝ่าย แต่กลับโดนหลบสายตาก่อนที่คนร่างบางจะหันหลังแล้วเดินต่อ
“รีบๆ เดินไปสถานีกันได้แล้ว เสียเวลา” พูดจบก็เดินออกไปทันที เพื่อปกปิดอะไรบางอย่างที่ไม่พ้นสายตาของว่าที่บุคแมนได้แม้แต่นิดเดียว
ยู หน้าแดง
รอยยิ้มผุดพรายบนใบหน้าหล่อคมก่อนจะรีบวิ่งตามไปกวนประสาทคนข้างหน้าอย่างเคย
ฉันสัญญา ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ จะอยู่เคียงข้าง แล้วทำให้นายมีความสุข
ใต้ต้นไม้ใหญ่ภายในศาสนจักรแห่งความมืด แสงแดดอ่อนๆ ของยามเช้าที่สดใส สายลมที่พัดเอื่อยมาทำให้คันดะรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก กระชับผ้าพันคอให้แน่นขึ้นก่อนยิ้มอย่างมีความสุข ผ้าพันคอของราวี่
“มานั่งอยู่ตรงนี้เองเหรอ ยู ?” เจ้าคนกวนประสาทโผล่มาอยู่ด้านหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ คันดะหันไปทำสายตาดุใส่เหมือนเคย
“ตามมากวนประสาทแต่เช้าเลยนะ” เอ่ยอย่างหงุดหงิด แต่ก็ยังเรียกรอยยิ้มจากคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี
“ท่าทางนายจะชอบผ้าพันคอสุดที่รักของฉันผืนนี้จังนะ” ชายหนุ่มไม่สนใจสิ่งที่คันดะพูดสักนิด แถมยังยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ”หรือว่า นายแอบชอบฉัน ” พูดจบ ปลายมุเก็นก็จ่ออยู่ที่ลำคอเจ้าของเรือนผมสีเพลิงทันที
“ถ้านายยังไม่อยากตาย ก็อย่าพูดอะไรบ้าๆ แบบนั้นอีก!
” ลดมุเก็นลงก่อนโยนผ้าพันคอผืนนั้นไปอย่างไม่ไยดี คืนไปสู่เจ้าของที่แท้จริง แล้วหันหลังจะเดินหนีไป“ถ้าตายด้วยมือนาย ฉันก็ยอมนะ ” พูดให้อีกคนได้ยิน ก่อนจะเดินไปสวมกอดจากด้านหลัง ซบหน้าลงกับไหล่บางไม่สนใจกับอาการดิ้นของคนตรงหน้าแม้แต่น้อย
“ทำบ้าอะไรของนาย ปล่อยนะเฟ้ย !!!
” ร้องเสียงดังโวยวายอย่างขัดใจ พร้อมกับพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดนั้น“ ฉันรักนายนะ ยู” คำบอกรักจากราวี่ ทำเอาคันดะหยุดนิ่งไปในทันที “จริงๆ นะ ยู” จับตัวร่างบางให้หันมาสบตา ”รู้ตัวหรือเปล่า ว่าเวลานายหน้าแดงเนี่ย น่ารักมากๆ เลยนะ ” คันดะแทบอยากจะต่อยคนตรงหน้าให้คว่ำไปซะรู้แล้วรู้รอด ก่อนจะสบถเสียงดัง
“ไอ้บ้า!
”“
อย่างนี้ถือว่านายรับรักฉันแล้วนะ” คิดเข้าข้างตัวเองเสร็จสรรพก็เกิดความเงียบขึ้นมาในทันที“แล้วแต่นายจะคิด ” เจ้าของเรือนผมสีรัตติกาลเอ่ยทำลายความเงียบ ก่อนจะเดินเข้าไปในปราสาทอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ราวี่ยืนยิ้มอย่างมีความสุข
ถ้าเป็นอย่างนี้ ฉันก็ขอคิดเข้าข้างตัวเองได้หรือเปล่า ว่านายก็คิดเหมือนกับฉัน
รัก
“
รู้สึกราวี่กับคันดะจะสนิทกันมากกว่าแต่ก่อนอีกนะครับ” อเลนพูดขึ้นท่ามกลางโรงอาหารที่อัดแน่นไปด้วยเอ็กโซซิสท์ ที่ผ่านมาก็รู้ว่าทั้งคู่สนิทกัน (?) แต่ช่วงหลัง จะสนิทกันมากเป็นพิเศษ จนผิดสังเกต“แหมมมมมมมมม ก็คนรักกันนี่นา จริงมั้ย ยู ?” เจ้าของเรือนผมสีเพลิงเอ่ยตอบอย่างคนอารมณ์ดี
“หา??? คนรักเหรอครับ ?” อเลน งง เป็นไก่ตาแตก ก่อนจะหันไปถามอีกคนที่ฉายแววหงุดหงิดอยู่เป็นประจำ “จริงเหรอครับ คันดะ” คำตอบที่ได้รับกลับมาคงมีแต่ความเงียบ ก่อนที่ร่างสูงโปร่งเจ้าของผมสีรัตติกาลจะลุกออกจากโต๊ะอาหารไปเสียดื้อๆ สงสัยจะเรื่องจริง ถ้าไม่จริง ป่านนี้คงโดนมุเก็นจ่อคอไปนานแล้ว
“อ้าว ยู ขอตัวก่อนละนะ อเลนคุง” พูดจบชายหนุ่มผมสีเพลิงก็ลุกตามคนรัก (?) ไปอีกคน อเลนทำได้เพียงถอนหายใจน้อยๆ ก่อนก้มลงตั้งหน้าตั้งตาจัดการอาหารตรงหน้าต่อ
ราวี่ที่ดูร่าเริงสดใสมากกว่าแต่ก่อน คันดะที่ดูหงิดหงุดน้อยลง คงไม่มีสิ่งใดที่ทำให้คนทั้งคู่ดูเปลี่ยนแปลง
..นอกจากความรัก .
ท้องฟ้าพร่างพรายไปด้วยหมู่ดาวมากมายนับไม่ถ้วนที่อยู่เป็นเพื่อนกับพระจันทร์ผู้โดดเดี่ยว พระจันทร์ที่กำลังทอแสงเต็มดวง สายลมที่พัดผ่านมาทำให้ร่างบางห่อไหล่เล็กน้อย นานทีจะมีโอกาสได้อยู่พักผ่อนจากการทำภาระกิจสักครั้ง คันดะเงยหน้ามองพระจันทร์บนฟากฟ้านั้น พระจันทร์ที่เปรียบเหมือนกับตัวเอง ที่ต้องอยู่เพียงลำพัง
บัดนี้ ได้มีดวงดาวเป็นเพื่อน และทำให้พระจันทร์ดูงดงาม
ลมพัดมาอีกครั้ง แต่คราวนี้พัดเอาผ้าพันคอของราวี่ที่ถืออยู่ ผ้าพันคอที่ราวี่เอามาวางไว้ที่ห้องของคันดะตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ปลิวลงไปยังเบื้องล่าง
อเลนที่เพิ่งกลับมาจากการทำภาระกิจ กำลังจะเดินเข้าตัวตึกของศาสนจักรอย่างเหนื่อยอ่อน รู้สึกถึงลมวูบนึงที่พัดมาพร้อมกับผ้าพันคอที่ตกลงมาบนหัวของเขาพอดิบพอดี เด็กหนุ่มค่อยๆ หยิบลงมาจากหัว ผ้าพันคอสีส้ม ผืนรักของราวี่เลยนี่นา อเลนมัวแต่มองผ้าพันคอนั้นอย่างสงสัย จนไม่รู้ว่ามีอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“เอาคืนมาได้แล้ว เจ้าถั่วงอก! ” เสียงหวานแต่กลับดุดันดังขึ้น ทำให้อเลนต้องเงยหน้ามองอย่างแปลกใจ คันดะที่ยืนหอบเหนื่อยเพราะวิ่งลงมาจากข้างบนเพื่อตามเก็บผ้าพันคอผืนนี้ ท่าทาง คันดะคง
“เอ่อ ” ยังไม่ทันได้พูดอะไร ก็เจอคนตรงหน้าคว้าผ้าพันคอไปจากมือซะก่อน แต่ภาพที่เห็นทำให้อเลนอึ้งไปอีกรอบ คนตรงหน้ากำลังยิ้ม ยิ้มให้กับผ้าพันคอผืนนั้น
เหมือนกับ ดีใจที่ได้สิ่งสำคัญกลับมา
“คันดะ .รักราวี่ใช่มั้ยครับ ?” ถามแบบตรงๆ แต่น้ำเสียงยังแอบแฝงไปด้วยความเศร้าจนคนฟังจับได้ คันดะมองหน้าอเลนที่เริ่มก้มลงต่ำ
ผมก็รักคันดะเหมือนกัน คุณไม่รู้จริงๆ น่ะเหรอ ว่าผม รักคุณ
คันดะเดินเข้าไปใกล้ก่อนจะวางมือลงบนผมสีขาวนุ่มนั้น คล้ายปลอบใจ
“ตัดใจเถอะนะ ..” รู้มาตลอด ในที่สุดก็ถึงวันที่ต้องพูดแบบนี้ พูดจบก็หันหลังเดินลับหายไปในตึกของศาสนจักรทันที
.เพราะคุณอ่อนโยนอย่างนี้ไง .
.คุณน่าจะรู้ .ว่า .ผมคงหยุดรักคุณไม่ได้อยู่แล้ว
เงยหน้าขึ้นมองไปบนระเบียง รู้นานแล้วว่ามีคนมองพวกเขาที่อยู่ข้างล่าง นัยน์ตาสีเขียวมรกตน้ำงามกำลังจับจ้องอยู่ด้วยความโกรธเคือง แต่อเลนก็ยังจ้องตอบก่อนส่งยิ้มให้อย่างเคย แล้วก็เดินหายไปในตึกของศาสนจักร
.ไม่เคย .ไม่เคยได้เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนแบบนั้นของยู
เฝ้ามองทุกค่ำคืนที่ร่างบางออกมารับลมข้างนอกก่อนนอน
ฝากบอกรักไปกับสายลมทุกค่ำคืน .แต่ไม่เคยได้รับรอยยิ้มกลับมา
หรือฉันเข้าข้างตัวเองเกินไป .ยู
..ที่ผ่านมา ..นายคิดยังไง ..
เคยรักฉันบ้างหรือเปล่า
‘
ปัง’ เสียงปิดประตูดังตามแบบฉบับของเจ้าของห้อง แต่เมื่อหันหลังกลับไป ก็ดันเจอเจ้าคนกวนประสาทอยู่ตรงหน้า แต่ ความรู้สึกกลับแตกต่างออกไป“เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่?” คันดะถาม ก่อนจะเดินไปวางผ้าพันคอไว้บนเตียง แต่ก็เจอแรงฉุดจากคนร่างสูง ทำให้คันดะตกอยู่ในอ้อมกอดของราวี่อย่างง่ายดาย
“ตั้งแต่คบกันมา ” ราวี่เอ่ยถามเสียงสั่น “เคยรักฉันบ้างหรือเปล่า ” ความเงียบเข้าคลุมทันที ก่อนประโยคถัดมาที่เอ่ยออกจากปากร่างบางจะทำลายมันลง
“แล้วฉันไปตกลงคบกับนายตอนไหน ?”
..ที่ผ่านมา ฉันคิดไปเองใช่มั้ย ?
.นายไม่เคยรักฉัน
“นายไม่เคยรักฉันเลยสินะ ” ปล่อยร่างคนในอ้อมกอด แล้วก้มลงเก็บผ้าพันคอสุดรักผืนนั้นขึ้น ก่อนจะหันหลังเพื่อปิดบังความเจ็บปวด
..เพราะอย่างนี้ไง ฉันถึงอยากฟังจากปากนาย ดีกว่าจะคิดเข้าข้างตัวเอง
“มันคงไม่จำเป็นสำหรับนายแล้วสินะ ” คันดะได้แต่นิ่งเงียบ
‘ปัง’ เสียงประตูห้องปิดลง แต่สายตายังจับจ้องอยู่แบบนั้นงี่เง่า ทั้งๆ ที่ฉันก็ ..รักนาย
แต่ไม่กล้าพอที่จะพูด เพราะ .ฉันมันอ่อนแอ
ยามใดที่พระจันทร์ขาดหมู่ดาวอยู่เป็นเพื่อน ก็คงต้องกลับมาอยู่อย่างโดดเดี่ยวอีกครั้ง
น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย สุดท้าย ก็ต้องกลับมาอยู่คนเดียวเพียงลำพัง
ภายในโรงอาหารของศาสนจักร เด็กหนุ่มผมขาวจ้องมองเพื่อนร่วมงานอีกคนที่เคยร่าเริง แต่ตอนนี้กลับหม่นหมองอย่างประหลาด ส่วนอีกคนก็ยังไม่เห็นหน้าตั้งแต่เช้า แปลก
“ราวี่ครับ คันดะ ”
“ไม่รู้!
” ตอบกลับทั้งๆ ที่ยังถามไม่จบด้วยซ้ำไม่อยากรับรู้ เรื่องที่เกี่ยวกับคนคนนั้นอีกแล้ว
เพราะทุกครั้งที่อยู่ใกล้ๆ ก็เป็นเขาทุกครั้งที่ต้องเจ็บปวด
..ไม่อยากจะต้องเจ็บปวดอีกแล้ว
ชายหนุ่มผมสีเพลิงลุกออกจากโต๊ะอาหารทันที ทำเอาเด็กหนุ่มแปลกใจ หรือจะเป็นเพราะเรื่องเมื่อคืนนะ
อเลนหยุดอยู่หน้าห้องของคันดะ ก่อนจะเคาะประตูเรียกคนในห้อง
“คันดะครับ คุณโคมุอิให้มาตามไปรับภาระกิจครับ ” เด็กหนุ่มตะโกนบอก พร้อมกับเคาะประตูอีกครั้ง เพราะผิดสังเกต ”คันดะครับ” เรียกอยู่นานแต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับเหมือนเดิม หรือว่าจะออกไปข้างนอก แต่ ก็ยังไม่เห็นตั้งแต่เช้าเลยนี่นา จับกลอนประตูแล้วเปิดออก ไม่ได้ล็อค “ขออนุญาตนะครับ” เปิดประตูเข้าไป ว่างเปล่า ไร้เงาของคนที่ตามหา แต่กลับเหลือบไปเห็นที่ระเบียงห้อง ภาพตรงหน้าถึงกับทำให้อเลนตกใจ ภาพที่คันดะ ยู ผู้ที่คิดว่าเข้มแข็งคนนั้น นอนกองอยู่ที่พื้นระเบียงนั้น “คันดะ !!!
”.ยามใดพระจันทร์ไร้แสง โลกนี้คงตกสู่ความมืดมิดอีกครา
“ว่าไงนะ อเลน คันดะน่ะเหรอไม่สบาย???” เสียงของโคมุอิดังลอดออกมาจากประตูห้อง ทำให้ใครบางคนที่เดินผ่านมาโดยบังเอิญหยุดฟัง
“จริงๆ นะครับ ไข้ขึ้นสูงมากเลยด้วย ” อเลนตอบอย่างร้อนรน แต่คนที่อยู่นอกห้องนั้นร้อนรนยิ่งกว่า รีบวิ่งไปที่ห้องของคนที่ห่วงหามากที่สุด
..สุดท้ายเขาก็ต้องเป็นฝ่ายที่เจ็บปวด ..
เปิดประตูห้องเข้าไปทันที ก่อนจะเห็นร่างบางที่คิดถึงนอนหลับใหลอยู่บนเตียง
“ยู ” เดินเข้าไปข้างเตียง นัยน์ตาสีเขียวมรกตมองด้วยความเป็นห่วง
ทั้งที่เคยสัญญากับตัวเอง ว่าจะดูแลนาย ..
มือใหญ่เอื้อมไปลูบเรือนผมสีรัตติกาลนั้น ก่อนกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหู “ฉันขอโทษ ”
ขอโทษที่ดูแลนายไม่ดี
ขอโทษที่ผิดสัญญา
ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ จะขออยู่เคียงข้างนาย จะทำให้นายมีความสุข
ถึงจะต้องเจ็บปวดก็ยอม ..
“ราวี่ครับ ดูแลคันดะดีดีนะครับ ” เสียงใสดังขึ้น เห็นทุกอย่าง นัยน์ตาสีขี้เถ้าจ้องมองมาอย่างมุ่งมุ่น ก่อนจะส่งยิ้มให้อย่างเคย “ผมจะออกไปทำภาระกิจแทนเอง ไม่ต้องห่วงนะครับ ”
“นายรักยูใช่มั้ย?” ราวี่เอ่ยถาม น้ำเสียงจริงจังทำให้เรียกรอยยิ้มได้จากอีกฝ่าย
“ครับ” ถามตรงๆ เขาก็กล้าตอบตรงๆ เช่นกัน
“ฉันจะไปเอง ”
ฉันยังอยู่เคียงข้างนายเสมอ ..จะคอยดูแลนายอยู่ห่างๆ
และจะคอยอธิษฐาน .ขอให้นายมีความสุข
เปลือกตาบางเปิดขึ้นเมื่อรู้สึกถึงแสงแดดที่แยงตายามเช้า ภาพตรงหน้าช่างพร่ามัว
“ราวี่ ”
“ผม อเลนครับ ” คันดะกระพริบตาก่อนจะมองภาพตรงหน้าอีกครั้ง ไม่ใช่ราวี่ แต่เป็นอเลน
.สุดท้าย นายก็ตีจากฉันไปเหมือนคนอื่นๆ
ทั้งๆ ที่เคยคิด ว่านายจะเป็นคนเดียวที่อยู่ข้างๆ ฉัน
จะกลับมาหาฉัน
“ราวี่ไม่เคยทิ้งคันดะไปไหนหรอกครับ ” อเลนพูดแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน
‘
ฉันจะรับภาระกิจของยูแทนทั้งหมด จนกว่ายูจะหาย ’ เสียงของราวี่ยังคงดังสะท้อนก้องอยู่ในหูของเด็กหนุ่มเป็นอย่างดี..ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำไป ก็เพื่อคนที่รัก
ท้องฟ้ายามค่ำคืนมาเยือนอีกครั้ง คันดะยังคงยืนมองท้องฟ้าเบื้องบนอย่างเหม่อลอย ท้องฟ้าที่ไม่มีแม้แต่ดวงดาว กระชับอ้อมกอดตัวเองแน่นขึ้นเพราะสายลมที่พัดพาเอาความหนาวเย็นมาด้วย พร้อมกับเสียงใครบางคน คนที่คิดถึง
“หายดีแล้วเหรอ ยู ?” ชายหนุ่มผมสีเพลิงตะโกนถาม ทำให้เจ้าของเรือนผมสีรัตติกาลมองลงไป รอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นมานาน แต่สภาพร่างกายของคนข้างล่างดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด “มายืนตากน้ำค้างอย่างนี้ เดี๋ยวก็เป็นไข้อีกหรอก ” เตือนคนร่างบางด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะเดินหายไป ทิ้งไว้เพียงรอยยิ้มที่คุ้นเคย
“ดีใจด้วยนะที่นายหายดีแล้ว ” โคมุอิพูดก่อนจะยิ้มให้อย่างอารมณ์ดี
“มีอะไรก็รีบๆ พูดมา” คันดะกลับมาหงุดหงิดอย่างเคย สายตาหันไปมองเจ้าคนที่เคยกวนประสาทเขาเช้าเย็น ที่ตอนนี้เอาแต่นั่งเงียบ
“โอเคๆ ตามหาอินโนเซนท์ทีได้รับข่าวสารมาจากหน่วยข่าว ที่นครปารีส ” โคมุอิพูดพลางขยับแว่นให้เข้าที่ “แต่ที่นั่น ตอนนี้คงเต็มไปด้วยอาคุมะ ระวังตัวกันด้วยละ” พูดจบด็ยื่นเอกสารเพิ่มเติมให้ทั้งสามคน คันดะ ราวี่ และ อเลน “เดินทางได้ ”
บนขบวนรถไฟมีแต่ความเงียบ ทั้งที่แต่ก่อนมักจะมีเสียงดังโวกเวกจนน่ารำคาญเวลาที่ทั้งสามมาทำภาระกิจด้วยกัน สายตาของคันดะเอาแต่ทอดมองข้างนอกอย่างเหม่อลอย รู้ดีว่ามีอีกคนที่ยังคงจับจ้องตนเองอยู๋ จึงไม่กล้าจะหันไปมอง
“เอ่อ ” ในที่สุดอเลนก็เป็นคนทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนั่นเอง “ คิดว่าพวกเรา จะเจอโนอาห์มั้ยครับ ?” สองคนที่เหลือหันไปมองเด็กหนุ่ม ก่อนราวี่จะยิ้ม ที่ยังไงก็รู้ว่าฝืนทำมากมายแค่ไหน
“กลัวตายหรือไง เจ้าถั่วงอก !
” นิสัยปากร้ายของคันดะกำเริบขึ้นมาทันที แต่กลับเรียกเสียงหัวเราะจากราวี่ได้เป็นอย่างดี“ฉันไม่เห็นจะมีลางสังหรณ์แบบนั้นเลยนะ ” พูดก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ
แต่มีสังหรณ์ว่า จะเสียคันดะ ยู ไป ..
..กลัว ว่าจะไม่มีวันได้กลับมาเจอกันอีก .
“นายก็รู้ว่าลางสังหรณ์ฉันแม่น วางใจเถอะ ”
คันดะได้แต่ปรายตามองว่าที่บุ๊คแมน ก่อนจะสบถอย่างเคย “ไร้สาระ”
ในที่สุดทั้ง 3 คนก็เดินทางมาถึงนครปารีสอย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่ทันจะพ้นสถานีรถไฟ ก็ต้องตกใจกับภาพตรงหน้าที่เห็น เหล่าอาคุมะระดับ 2 มากันเป็นกองทัพใหญ่
“ไม่เจอโนอาห์ แต่เจอฝูงอาคุมะแทนละนะ อเลนคุง” พูดพลางหยิบศาสตรากำราบอาคุมะคู่ใจขึ้นมา ก่อนจะพุ่งเข้าใส่เหล่าอาคุมะไม่ยั้ง ตามด้วยคันดะที่คว้ามุเก็นเข้าใส่อาคุมะเช่นกัน
“ระวังตัวกันด้วยนะครับ ” ตะโกนบอกทุกคนก่อนจะโจมตีอาคุมะที่อยู่ข้างหลัง
สงครามระหว่างเอ็กโซซิสท์และอาคุมะยังดำเนินต่อไป
แต่ในสงครามย่อมมีการสูญเสีย
อาคุมะจำนวนมากถูกทำลายไป แต่กำลังของทั้งสามคนก็ย่อมอ่อนแรงเช่นกัน คมดาบพุ่งใส่อาคุมะตรงหน้า ตัวสุดท้าย ก่อนมุเก็นจะปักลงพื้นด้วยความเหนื่อย ถึงจะฝึกฝนร่างกายเป็นประจำ แต่การต่อสู้ติดต่อกันหลายชั่วโมงก็ทำให้อ่อนล้าได้เหมือนกัน
“ยู!!!
” หันไปตามเสียงเรียกก็พบกับอาคุมะอีกตัวที่กำลังมุ่งมาระยะประชิด‘
ตูม!’ ค้อนยักษ์ทุบลงมาอย่างแรงพร้อมกับซากอาคุมะ.ช่วยได้ทันพอดีเลยสินะ .
ชายหนุ่มผมสีแดงเพลิงล้มลงกองกับพื้น เหนื่อย และอ่อนแรงเต็มที
“ราวี่ !!!~
” คันดะรีบวิ่งมาหาชายหนุ่มทันที แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นเลือด “บาดเจ็บเหรอ ? ตอนไหนกัน .” ก็เมื่อกี้ ไม่มีท่าทีว่าราวี่จะโดนอาคุมะทำร้ายเลยด้วยซ้ำ“ ก็ตั้งแต่ ไปช่วยอเลนนั่นแหละ ”
ถึงเขาจะเป็นอะไรไป ก็ไม่เป็นไร
อย่างน้อย ก็ยังมีอเลนคอยดูแลยูได้
“รีบไปดูอเลนดีกว่านะ ”
“นายมันบ้าไปแล้วหรือไง !
” ร่างบางตะโกนเสียงดัง “นายมันบ้า ” แต่ค่อยๆ แผ่วลง พร้อมกับเสียงสะอื้น“ถึงฉันจะบ้าในสายตานาย ” รอยยิ้มอบอุ่นผุดพรายบนใบหน้าหล่อ แต่กลับดูซีดเซียวในเวลานี้ เปลือกตาบางค่อยๆ ปิดลง อ่อนล้าจนทนไม่ไหว “แต่ฉันก็รักนาย ไม่เคยเปลี่ยน ”
ไม่มีวันไหน ที่ฉันจะหยุดรักนายได้
.นอกจากวันที่ฉันหมดลมหายใจ
“ราวี่ ..ราวี่!!!~
” เขย่าร่างของคนที่เคยกวนประสาท แต่ก็เป็นเจ้าของอ้อมกอดที่อบอุ่น คนที่บอกว่ารัก น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว ทำไม ช่างรู้สึกว่าตัวเขา กับราวี่เริ่มจะห่างไกลกันทุกทีSomeday, I lay my love on you
สักวันหนึ่งฉันจะมอบความรักทั้งหมดให้นาย
Baby I don’t wanna lose it now
แต่ ฉันในตอนนี้ไม่ต้องการจะเสียนายไป
Just ---One---
แค่นายเพียงคนเดียวเท่านั้น
“อเลน ช่วยราวี่ด้วย ” เสียงที่เอ่ยเรียกชื่อเด็กหนุ่มเป็นครั้งแรกกลับสั่นเครือ เสียงที่ตะโกนขอความช่วยเหลือเป็นครั้งแรกในชีวิต อเลนรีบวิ่งเข้ามาทั้งที่ตัวเองก็ได้รับบาดเจ็บไม่แพ้กัน แต่ก็ยังเข้าไปช่วยพยุงราวี่ขึ้นมา
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ คันดะ ” ส่งรอยยิ้มให้อย่างเคย “ราวี่ต้องปลอดภัยครับ ”
ราวี่ หิมะตกแล้วนะ
.ตื่นขึ้นมาสิ แล้วฉันจะยอมเล่นหิมะกับนาย
มือบางกุมมืออีกคนที่นอนอยู่บนเตียง ผ่านไปหลายวันแล้ว แต่ราวี่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะฟื้น เนื่องจากเสียเลือดมาก และร่างกายที่เหนื่อยล้าจากการทำภาระกิจมามาก
..ราวี่ ..
.ท่ามกลางผู้คนมากมายนั้น ฉันรู้ว่านายกำลังมองหาฉันอยู่ ..
แต่ในตอนนี้ ฉันก็มาอยู่ตรงหน้านายแล้ว .อยู่ตรงนี้ ..
“ถ้านายฟื้นขึ้นมา ” คันดะเอ่ยเสียงสั่น “ฉันจะบอกสิ่งที่ฉันอยากบอกกับนายมากที่สุด ” โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ๆ ใบหน้าคมที่กำลังหลับใหล
.ถ้าหากโลกนี้มีปาฏิหาริย์ ..
.ถ้าหากโลกนี้เหมือนดั่งนิทาน .
ถึงจะเป็นความคิดที่งี่เง่า แต่ในเวลานี้
ฉันอยากให้มีปาฏิหาริย์ .เหมือนดั่งในนิทาน .
ก้มลงประกบริมฝีปากชายหนุ่มที่หลับใหลอย่างแผ่วเบา ก่อนจะถอนริมฝีปากออกช้าๆ แต่คันดะก็เจอแรงฉุดที่แขนทำให้ล้มลงไปบนเตียงด้วยอีกคน
“แอบลักหลับฉันเหรอ ยู?” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยขึ้นเบาๆ ที่ข้างหู ทำให้เสียงหัวใจของร่างบางเต้นแรง
“ นะ ..นาย ” หน้าแดงเรื่อขึ้นมาทันที แต่ คนที่นอนป่วย เสียเลือดมาก แถมสภาพร่างกายอ่อนล้าขนาดนั้น ทำไมถึงมีแรงได้ขนาดนี้ ! “นายหลอกฉันเหรอ ?” คันดะเปลี่ยนมาตวาดใส่ทันที แต่กลับเรียกรอยยิ้มจากคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี
“เขาเรียกว่า
‘ลองใจ’ ต่างหากละ” ราวี่ตอบ ก่อนจะเจอแรงผลักของคันดะเต็มแรง ทำให้ร่างสูงไปกองอยู่ที่ปลายเตียง“ นายเห็นฉันเป็นตัวตลกหรือไง เห็นฉันเป็นห่วงนายเป็นบ้าเป็นหลัง แล้วรู้สึกสนุกมากใช่มั้ย เห็นความรักของฉันเป็นเรื่องล้อเล่นงั้นเหรอ !!!?
” ประโยคหลังแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน น้ำใสๆ เอ่อคลอเต็มนัยน์ตาสีห้วงทะเลลึกนั้น“ ฉันขอโทษ..ยู ” ราวี่เอื้อมมือไปปาดน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน ก่อนจะคว้าเข้ามากอดปลอบ “ฉันไม่เคยเห็นนายเป็นตัวตลก ไม่เคยเห็นความรักของนายเป็นเรื่องล้อเล่นเลยนะ ฉันรักนาย .” กระซิบข้างหูแผ่วเบา ลูบไล้เรือนผมสีรัตติกาลอย่างหลงใหล
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลกนี้ ฉันก็คิดถึงแต่นาย
I pray for this love to be true เฝ้าภาวนาขอให้ความรักครั้งนี้สมหวัง
แขนเรียวยกขึ้นกอดตอบร่างสูง ก่อนจะแนบหน้ากับหน้าอกกว้าง
“ฉัน .ก็ รักนาย ราวี่” เสียงกระซิบที่แผ่วเบายิ่งกว่าครั้งไหนๆ แต่กลับทำให้อีกคนรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที
ตอนนี้ ฉันอยู่ตรงหน้านายแล้วนะ
ราวี่ก้มลงประกบริมฝีปากคนร่างบาง หลงใหลในรสจูบที่ได้รับ ต่างคนต่างต้องการ ก่อนทั้งสองคนจะรวมเป็นหนึ่งเดียว
สุดท้ายนายก็กลับมาหาฉัน เหมือนทุกครั้ง
อยากให้นายได้รับรู้ไว้ว่า ทั้งร่างกายและหัวใจนี้ จะมอบให้นายเพียงคนเดียว
นายคนเดียวเท่านั้น ราวี่
ราวี่กระชับคนในอ้อมกอดมากขึ้น ในที่สุด เขาก็ได้คนตรงหน้ามาอยู่ในอ้อมกอดจริงๆ ไม่ใช่ในความฝัน
“เจ็บมากมั้ย ยู ขอโทษนะ ” ลูบผมคนรักอย่างเอาใจ ภายใต้ผ้าห่มผืนนี้ อบอุ่นกว่าครั้งไหน คันดะได้แต่ส่ายหน้าบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ ก่อนจะซบกันอกกว้าง
“ราวี่ ..บอกฉันอีกได้หรือเปล่า?” เสียงหวานเอ่ยถาม ร่างสูงได้แต่ยิ้ม
“ ..ฉันรักนาย ..รักที่สุดเลย .ยู ”
ฉันจะไม่มีวันเปลี่ยนใจ จะไม่มีใครนอกจากนายคนเดียว ยู
“เมอร์รี่คริสมาสต์ครับ” อเลนเอ่ยเสียงทักทายอย่างร่าเริง ถึงจะเห็นราวี่และคันดะเดินเคียงข้างกัน ถึงจะเจ็บปวด แต่ก็มีความสุข
“เมอร์รี่คริสมาสต์อเลนคุง เดี๋ยวออกไปเที่ยวกันดีมั้ย?” ราวี่ยิ้มอารมณ์ดี
“ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่อยากจะไปเป็นก้างขวางคอใคร” เด็กหนุ่มพูดแล้วยิ้มตอบ
“โอเคๆ งั้น ฉันพาไปยูไปเที่ยวละนะ ” พูดจบก็เดินจูงมือคันดะไปทันที ทิ้งไว้เพียงรอยยิ้มอ่อนโยนด้านหลัง
มีความสุขมากๆ นะครับ คันดะ ผมจะอยู่เป็นกำลังใจให้คุณเสมอ
หิมะตกลงมาเรื่อยๆ ทำให้อากาศเย็นลงทุกที เมื่อลมหนาวพัดมาก็ทำเอาคันดะห่อตัวด้วยความหนาว
“หนาวหรือเปล่า ยู ?” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนที่เดินอยู่ข้างๆ ด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้องมายุ่ง” คันดะตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งตามแบบฉบับ ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินให้เร็วขึ้น แต่กลับเจอแรงฉุดที่แขนไว้ ก่อนผ้าพันคอสีส้มจะตวัดลงบนลำคอระหง ราวี่ค่อยๆ จัดผ้าพันคอให้เรียบร้อย แล้วส่งยิ้มให้อย่างเคย
“นายก็รู้ว่าฉันชอบยุ่ง โดยเฉพาะเรื่องของนาย ” นัยน์ตาสีเขียวมรกตจ้องมองอีกฝ่าย แต่คันดะกลับหลุบตาลงต่ำด้วยความเขินอาย
“ ขอบคุณ ” หน้าขึ้นสีเรื่ออย่างเห็นได้ชัด จนชายหนุ่มผมสีแดงเพลิงอมยิ้มด้วยความเอ็นดู ก่อนจะขโมยหอมแก้มคนตรงหน้า “เจ้าบ้า ทำอะไรของ ..” คำพูดถูกกลืนหายไปเพราะถูกจูบอย่างไม่ได้ตั้งตัว จูบที่อ่อนโยน ก่อนจะถอนจูบออก
“รักนายนะ ” กระซิบเอ่ยถ้อยคำหวาน ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นที่สุด
ฉันจะทำให้นายมีความสุข และจะไม่ทำให้นายต้องเสียน้ำตา
สองมือกุมกระชับกันแน่นขึ้น ท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายนั้น
--- ตราบใดที่มีชีวิตอยู่ จะขออยู่เคียงข้างกันตลอดไป ---
--- THE END ---
ผลงานอื่นๆ ของ U-Nife ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ U-Nife
ความคิดเห็น